การทุจริตสอบ

ผู้บัญชาการศึกษา นำหลักฐานทุจริตสอบตำรวจเข้ารายงาน ผบ.ตร.ยืนยันผู้เข้าสอบถูกแก๊งหลอกลวง เพราะการออกข้อสอบรัดกุมหลายขั้นตอน ทุจริตยาก ระบุจะขึ้นบัญชีดำผู้ที่ถูกจับได้ไม่ให้สอบเข้ารับราชการอีก

พล.ต.ท.เรืองศักด์ จริตเอก ผู้บัญชาการศึกษา สตช. นำหลักฐานการทุจริตการสอบเข้าตำรวจที่จับได้เมื่อวานนี้เข้ารายงานต่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.ท.เรืองศักด์ กล่าวว่า จากการรวบรวมหลักฐานการทุจริตเมื่อวานนี้ พบเครื่องส่งสัญญาณแบบสั่นในตัวผู้เข้าสอบที่แอบซุกซ่อนไว้ในเป้ากางเกง และ ช่องทวาร ในสนามสอบพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 จำนวน 95 คน ตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 9 คน ตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน 108 คน เชื่อว่าเป็นเครือข่ายเดียวกันส่วนความคืบหน้าทางคดีขณะนี้ ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ สามารถจับกุมผู้ส่งสัญญาณได้ 1 ราย และยึดเงินสดได้จำนวนหนึ่งจากบ้านพัก ได้แจ้งความดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุโทรคมนาคม ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างให้แต่ละภาครวบรวม และสรุปผลการดำเนินคดีมาให้อีกครั้งพล.ต.ท.เรืองศักดิ์ เปิดเผยด้วยว่า มีข้อมูลว่าผู้ปกครองจะเป็นผู้ติดต่อกับแก๊งหลอกลวงเหล่านี้ โดยนัดหมายกันก่อนเข้าสอบ 2 ชม.เพื่อมาทดสอบและรับเครื่องรับสัญญาณแบบสั่นเครื่องละ 30,000 บาท หากสอบได้จะต้องจ่ายให้อีกคนละ 470,000 บาท รวมแล้วตกรายละ 500,000 บาท เชื่อว่าเป็นการหลอกลวงเท่านั้นด้าน พล.ต.ต.จักกฤษศณ์ สิงห์ศิลารักษ์ ผู้บังคับการกองการสอบ กองบัญชาการศึกษา ที่ดูแลการออกข้อสอบ ยืนยันว่าการป้องกันการทุจริตการสอบนั้น ทางกองบัญชาการศึกษามีมาตรการป้องกันอย่างเต็มที่ตั้งแต่ขั้นตอนการออกข้อสอบ ได้เชิญอาจารย์ และ วิทยากร รวม 59 คน มาเก็บตัว 4 วัน เพื่อออกข้อสอบ นอกจากนี้ข้อสอบยังพิมพ์ออกมา 8 ชุดต่างกัน ส่วนข้อสอบจัดพิมพ์พิเศษโดยแต่ละชุดจะมีบาร์โค้ดและสติกเกอร์พิเศษป้องกันการเปิดดู ส่วนการป้องกันการทุจริตขณะเข้าสอบได้ทำการป้องกันตัดสัญญาณโทรศัพท์ ตัดสัญาณคลื่นต่ำ และตัดสัญญาณรีโมท และ ใช้เครื่องตรวจโลหะก่อนเข้าสอบ นอกจากนี้ยังกำหนดให้ผู้เข้าสอบสวมเสื้อยึดและกางเกงวอร์มเพื่อสะดวกในการตรวจค้นส่วนการสอบครั้งนี้ยังไม่มีการยกเลิก เพราะทางเจ้าหน้าที่จับผู้ทุจริตได้ก่อน นอกจากนี้จะทำประวัติผู้ทุจริตไว้พร้อมบันทึกลายพิมพ์นิ้วมือส่งให้สำนักงาน กพ.ร่วมกัน ก่อนขึ้นบัญชีไว้ไม่ให้สอบเข้ารับราชการได้อีกต่อไป